7 วิธีเลือกโรงงานรับผลิตเครื่องสำอางอย่างไรให้ปัง
7 วิธีเลือกโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง อย่างไรให้ปัง ในปัจจุบันมีโรงงานผลิตเครื่องสำอางเกิดขึ้นมามากมาย ด้วยตลาดเครื่องสำอางที่มาแรงมีความคึกคักอยู่ตลอดเวลา
การตัดสินใจเลือกบริษัทรับผลิตเครื่องสำอางจึงไม่ใช่เรื่องง่าย วันนี้เราจึงมีหลักการในการเลือกบริษัทหรือโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ด้านความสวยความงามต่างๆ มาฝากกันค่ะ

1. เลือกโรงงานที่ให้บริการครบวงจร หรือเรียกว่า One stop service
เลือกโรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ธุรกิจของคุณเป็นเรื่องที่ง่ายดายและสบายขึ้นมาก ถ้าได้เจอกับโรงงานที่สามารถดูแลและให้คำแนะนำอย่างครบวงจรทุกขั้นตอน
ตั้งแต่ พูดคุยก่อนเริ่มการผลิต การแนะนำผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในเทรนด์ ไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การผลิต การออกแบบฉลากและบรรจุภัณฑ์ การขอจดแจ้งทางกฎหมาย ไปจนถึงการทำการตลาดทั้งก่อนและระหว่างการจัดจำหน่ายแต่ละล็อต อย่างครบวงจร โดยที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง

2. มีใบรับรองคุณภาพและมาตรฐาน
โรงงานผู้ผลิตมี GMP หรือ ใบรับรองหลักๆ ของควรมี เช่น GMP, ISO, Halal และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเราสามารถสอบถามและตรวจสอบได้ นอกจากนั้นบางโรงงานยังได้รับรางวัลอื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
การมีใบรับรองต่างๆ จะช่วยบอกคุณภาพและความน่าเชื่อถือของทั้งตัวโรงงานและการผลิตสินค้าได้ ทำให้ผู้สั่งผลิตสามารถไว้วางใจในสินค้าแต่ละชิ้นว่ามีคุณภาพเป็นมาตรฐาน นอกจากนั้นยังช่วยยืนยันกับผู้บริโภคให้วางใจผลิตภัณฑ์ของเราได้อีกด้วย

3. เลือกโรงงานที่เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์ที่เราต้องการผลิต
เลือกโรงงานที่เชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ประเภทของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวนั้นมีความหลากหลาย ซึ่งแต่ละโรงงานหรือบริษัทจะมีความถนัดหรือประสบการณ์ต่างกัน เช่นบางโรงงานถนัดด้านผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น
ดังนั้นหลังจากมีประเภทสินค้าในใจแล้วควรศึกษาข้อมูลว่าโรงงานที่เราจะผลิตมีความเชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าของเราแค่ไหน หรือถ้าโรงงานมีความถนัดที่หลากหลายก็จะยิ่งดี เผื่อว่าเราอยากเพิ่มไลน์สินค้าก็สามารถใช้บริการโรงงานเดียวไปได้เลย

4. โรงงานสามารถคิดค้น วิจัยสูตรเป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์ได้
สูตรเครื่องสำอาง และสกินแคร์ควรมีความโดดเด่นและไม่ซ้ำกับเจ้าอื่นๆ เรื่องของการคิดค้นวิจัยผลิตภัณฑ์จึงมีความสำคัญ ไม่เพียงแต่ใช้สูตรพื้นฐานที่เหมือนๆ เดิมตลอดเวลา รวมทั้งสามารถผลิตตามที่ลูกค้าต้องการได้อย่างตรงตามความต้องการ
โดยในส่วนนี้จะต้องมีนักวิจัยสูตรเครื่องสำอางที่มีความรู้และประสบการณ์สูงที่จะสามารถพัฒนาสูตรได้หลากหลาย และออกมาดีตรงตามความต้องการของลูกค้า

5. สามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาตั้งแต่ก่อนผลิตจนถึงการขาย
เลือกโรงงาน ที่มีความรู้และประสบการณ์จะสามารถให้คำแนะนำได้ทุกด้านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นๆ ตั้งแต่การออกแบบ การผลิต การจดแจ้งทางกฎหมาย จนถึงการทำการตลาด
สามารถตอบคำถามของลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา และถ้าลูกค้าต้องการข้อมูลที่แปลกใหม่ก็จะสามารถไปค้นคว้าข้อมูลให้กับลูกค้าได้อย่างดี การให้คำแนะนำจะช่วยให้เจ้าของแบรนด์ได้รู้ว่าทางโรงงานมีความน่าเชื่อถือและความเอาใจใส่ลูกกค้ามากแค่ไหนอีกด้วย

6. มีกำหนดการและตารางเวลาผลิต จัดส่ง ชัดเจน ตรงเวลา
เวลาเป็นสิ่งสำคัญของทุกธุรกิจ โรงงานผลิตเครื่องสำอาง ที่ดี จะสามารถวางแผนเวลาในการกำเนินการแต่ละขั้นตอนได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การนัดหมาย การวิจัย การผลิต และสามารถทำได้ตรงตามที่ได้ตกลงเอาไว้ และถ้ามีปัญหาขัดข้องใดๆ
ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่มีผลกระทบรุนแรงต่อธุรกิจของเจ้าของแบรนด์ รวมถึงช่วยในเรื่องไทม์ไลน์ในการผลิตและการทำการตลาดให้ลูกค้าได้ผลลัพทธ์ตามเป้าหมายได้อย่างดีที่สุด

7. โรงงานที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถหาได้ทั่วไป
การเลือกบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอาง แพ็กเกจจิ้งเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามต่างๆ เพราะเป็นจุดแรกๆ ที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจสินค้า รวมทั้งทำให้สินค้าดูน่าเชื่อถือ และกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย การเลือกแพ็กเกจหรือบรรจุภัณฑ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ และควรใช้แพ็กเกจจิ้งที่มีขายทั่วไป
เพราะถ้าโรงงานเลือกใช้แพ็กเกจจิ้งที่หายาก จะทำให้เกิดปัญหาถ้าแพ็กเกจจิ้งหมดล็อตหรือเลิกผลิตไป ไม่สามารถหามาใช้ทดแทนได้ทันท่วงที เจ้าของแบรนด์จึงควรตัดสินใจร่วมกับทางโรงงานผลิตในเรื่องเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เจ้าของแบรนด์หรือผู้สนใจท่านใดที่กำลังคิดวางแผนผลิตสินค้าเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรใช้คำแนะนำต่างๆ ที่เราให้ไว้ไปช่วยในการตัดสินใจเลือกผู้ให้บริการรับจ้างผลิตเครื่องสำอาง และหวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยให้ท่านประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจไม่มากก็น้อยนะคะ